50 Ideas for Free E-Learning

50 Ideas for Free E-Learning

โดย Piriya Jennoppakarn -
Number of replies: 0

50 Ideas for Free E-Learning
Higher Returns for Lower Investment

โดย Matthew Fox

1. บทนำ

ข้อจำกัดทางด้านการเงินเป็นแรงผลักดันพร้อมทั้งสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น เทคโนโลยีใหม่ก็ช่วยเพิ่มมิติในทางการศึกษา ต้นทุนที่ต่ำลงและเทคโนโลยีที่ใช้ง่ายขึ้นทำให้เกิดการศึกษารูปแบบใหม่ ต้นทุนต่ำไม่ได้หมายถึงการศึกษาที่ไร้คุณภาพ แต่เป็นการศึกษารูปแบบใหม่ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน

ปกติเมื่อองค์กรที่มีพนักงานเป็นจำนวนมากต้องการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ จะใช้วิธีการถ่ายทอดแบบเจอหน้ากัน (face-to-face) ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอาจพอ ๆ กับกำไรที่องค์กรจะได้รับ แต่ถ้าใช้การเรียนแบบผสมผสานมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าวิทยากรได้ เทคโนโลยีจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากได้โดยใช้ต้นทุนที่น้อยลง

2. นำเสนอสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการเรียน (แต่ต้องไม่ลืมคนส่วนน้อย)

เริ่มต้นจากการมองหาปัจจัยที่ทำให้เกิดการเรียนรู้หรือการเปลี่ยนแปลง ปกติแล้วมักจะเป็น
- เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบ
- การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น (เช่น การรวมกิจการ)
- การเพิ่มประสิทธิภาพ หรือแนะนำสินค้าใหม่
- การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
- ทักษะที่จำเป็นสำหรับพนักงานใหม่

สิ่งเหล่านี้เหมาะที่จะใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วย ประโยชน์อีกอย่างที่จะได้จากเทคโนโลยีคือ การลดเวลา การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมักส่งผลกระทบกับคนหมู่มาก หากมีพนักงาน 500 คนขึ้น การเรียนแบบผสมผสานโดยใช้ e-learning ช่วย จะลดค่าใช้จ่ายและทำให้บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ได้ดีที่สุด

เรื่องด้านภูมิประเทศก็จะส่งผลกับการฝึกอบรมเช่นกัน เช่น ถ้าอบรมต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ก็ต้องมีต้นทุนในการเดินทาง ต้นทุนในการเตรียมตัว แต่ถ้าใช้ e-learning หรือ virtual classroom จะก็ช่วยลดอุปสรรคตรงนี้ได้

3. เริ่มสร้างกลยุทธการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย

เมื่อเห็นว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ ปัญหาต่อมาก็คือเทคโนโลยีไหนล่ะ ที่จะนำมาใช้ จะเป็น e-learning หรือ virtual classroom หรือกลับไปใช้การเจอหน้า (face-to-face) แบบเดิม

เราพบว่าเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน เพิ่มมากขึ้น เช่น Blog, Wiki (สารานุกรม), Podcast (สถานีวิทยุ) สิ่งที่เกิดขึ้นคือ

  • การเรียนรู้ตามลำดับ เริ่มเรียนเป็นการเรียนรู้หลายอย่างพร้อมกันตามที่ผู้เรียนสนใจ จนถึง Knowledge Management
  • เนื้อหาปกติ เริ่มกลายเป็นเนื้อหาที่ยืดหยุ่นขึ้น ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา จากที่ไหนก็ได้
  • เนื้อหาที่เรียน เริ่มกลายเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ ผู้เรียนสามารถโต้ตอบได้
  • การแสดงให้ดู เริ่มกลายเป็นการให้ลงมือทำเอง การเรียนรู้เกิดจากการลงมือปฏิบัติ ไม่ใช่การฟังเรื่องที่บอกเล่า
  • จุดประสงค์การเรียนรู้ เริ่มกลายเป็นเป้าหมายการเรียนรู้
  • รูปแบบทางการ เริ่มกลายเป็นรูปแบบที่หลากหลาย การเรียนที่เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน

อีกประการที่เราเห็นว่าสำคัญเช่นกันคือ

  • ความรับผิดชอบ: การสอนเป็นสิ่งที่ดี แต่การสอนโดยไม่นึกถึงคุณภาพก็แสดงถึงความไม่รับผิดชอบเช่นกัน
  • ปฏิสัมพันธ์: เทคโนโลยีในปัจจุบันมักจะเป็นการสื่อสารสองทาง เช่น email, กระทู้, แชท, blog, wiki ผู้สอนควรเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมในการนำไปใช้

4. การพัฒนาเนื้อหาด้วยตนเอง

ถ้าคุณต้องการพัฒนาเนื้อหาด้วยตนเอง เรามีเคล็ดลับ 3 ข้อให้คุณ

Moodle
1. สัมภาษณ์ผู้บริหารแล้วนำขึ้นไปไว้ในระบบ
2. แนะนำการใช้ Moodle ภายใน 5 นาที เพื่อให้คนที่เพิ่งเข้าครั้งแรกได้ทราบ
3. นำเสนอเนื้อหาที่คุณต้องการ

ATutor
1. แนะนำ Learning Object ใน 10 นาที
2. ทำแบบสำรวจ (poll) สำรวจความต้องการของคนในองค์กร
3. อภิปรายเรื่องการทำเนื้อหา

Blog
1. สร้าง blog ของผู้บริหารแล้วให้ update เดือนละครั้ง
2. นำสิ่งที่คนในองค์กรต้องการมาตั้งเป็นประเด็น
3. ให้คนในองค์กรลองสร้าง

E-Mail
1. สร้างจดหมายข่าวรายเดือน/รายสัปดาห์ขององค์กร
2. ใช้ email เมื่อต้องการขอความช่วยเหลือ
3. ส่งข่าวสำคัญ